บ้านใคร ใครก็รัก" ยิ่งในยุคนี้ที่มีอันตรายอยู่รอบตัว ยิ่งต้องดูแลระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนในบ้านเรา โดยเฉพาะกับ 8 จุดสำคัญเหล่านี้

1. รั้ว : ถือเป็นด่านแรกของการป้องกัน รั้วจึงต้องแข็งแรง ไม่ต่ำเกินไปเพราะอาจถูกปีนเข้าบ้านได้ง่าย อาจติดตั้งศรแหลมหรือลวดหนามเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ ควรดูแลพื้นที่บริเวณรั้วให้โปร่ง ไม่รกทึบ เมื่อมีผู้บุกรุกจะได้สังเกตเห็นง่ายและเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที
2. ประตู : ประตูเป็นจุดที่เสี่ยงถูกบุกรุกมากที่สุด จึงควรเลือกบานประตูและวงกบที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ติดตั้งอย่างรัดกุมปลอดภัย ให้บานพับประตูอยู่ภายในอาคาร และช่องว่างระหว่างวงกบกับบานประตูควรห่างกันไม่เกิน 0.3 เซนติเมตร เพื่อป้องกันการถูกงัดแงะ
3.  หน้าต่าง : อาจถูกบุกรุกได้ง่าย โดยเฉพาะหน้าต่างที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน หน้าต่างจึงต้องแข็งแรง แน่นหนา นอกจากนี้ อาจติดตั้งเหล็กดัดหรือหน้าต่างนิรภัย เพื่อความปลอดภัยในอีกระดับ
4. ระบบล็อก : กว่า 50% ของการถูกบุกรุก เกิดจากประตู/หน้าต่าง ที่ไม่ได้ล็อก หรือระบบล็อกไม่แข็งแรง เมื่อเข้านอนหรือไม่อยู่บ้านจึงควรล็อกบ้านให้เรียบร้อย และอย่าลืมตรวจสอบระบบล็อกทุกจุดอยู่เสมอ หากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนทันที
5.  แสงสว่าง : คนร้ายอาจอาศัยความมืดในการหลบซ่อนตัวและฉวยโอกาสเข้ามาในบ้านเราได้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจึงควรติดไฟเพิ่มแสงสว่างรอบบ้าน เมื่อออกไปนอกบ้านตอนกลางคืน อาจเปิดไฟในบ้านบางดวงทิ้งไว้ด้วย เพื่อให้ดูเหมือนยังมีคนอยู่ในบ้าน
6. กุญแจ : เพื่อไม่ให้คนนอกเข้าบ้านเราได้ ไม่ควรซ่อนกุญแจไว้นอกบ้าน (เช่น ใต้พรม ในกระถางต้นไม้) หากจำเป็น ควรฝากกุญแจไว้กับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้แทน ไม่ควรให้กุญแจไว้กับช่างหรือคนที่มาส่งของ กรณีที่ทำกุญแจหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทั้งชุดทันที เพื่อความปลอดภัย
7. สิ่งของภายในบ้าน : บางครั้งของในบ้านอาจกลายเป็นเครื่องมือของโจร ไม่ว่าจะเป็นไขควง ค้อน เลื่อย หรือเครื่องมืออื่นๆ ก็ควรเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย นอกจากนี้อย่าล่อตาล่อใจขโมย โดยการอวดของมีค่าหรือทิ้งกล่องเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงที่เพิ่งซื้อใหม่ไว้หน้าบ้าน
8. เทคโนโลยีป้องกันขโมย : หากภายในบ้านมีทรัพย์สินมาก หรือเจ้าของบ้านมีงบประมาณพอ อาจเลือกใช้เทคโนโลยีช่วยดูแลความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมย Digital Door Lock เป็นต้น