เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
ก่อนที่จะมานั่งคิดว่าจะเลือกซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี แอร์รุ่นไหนดี น่าซื้อมาติดตั้งไว้ที่บ้าน สิ่งแรกที่เราควรต้องรู้ก่อนซื้อก็คือ วิธีการเลือกซื้อ แอร์บ้าน อย่างไรให้เหมาะกับบ้านเรา ที่จะช่วยทำให้บ้านได้เย็นฉ่ำชื่นใจ ประหยัดไฟฟ้าได้ดี และแอร์มีกี่ประเภท ควรเลือกซื้อแอร์ประเภทไหนมาไว้ใช้ที่บ้าน จากนั้นค่อยมาเลือกซื้อยี่ห้อที่ต้องการ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เราได้รวบรวมแบบสั้นๆ เข้าใจได้ง่ายๆ ไว้ที่นี่ทั้งหมดแล้ว ลองมาดูกัน
วิธีเลือกซื้อแอร์บ้านให้เย็นฉ่ำชื่นใจ ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้ดี
การซื้อจะแอร์เข้าบ้านสักตัวไม่ใช่เรื่องยาก แค่จ่ายเงินคุณก็จะได้แอร์เย็นๆ มาไว้ที่บ้านแล้ว แต่ความสำคัญในการซื้อแอร์มันจะอยู่ตรงวิธีการเลือกซื้อแอร์อย่างไร ให้เหมาะกับบ้านของเรา เนื่องจากแอร์มีหลายขนาด ถ้าซื้อแอร์ตัวเล็กแล้วไปติดไว้ในห้องขนาดใหญ่ มีแสงแดดส่องถึง ก็จะไม่ได้ช่วยทำให้ห้องนั้นเย็นมากนัก หรือถ้าห้องขนาดเล็กแต่กลับซื้อแอร์ตัวใหญ่เกินไป ก็จะทำให้ต้องเสียค่าไฟฟ้าที่สูงเกินจำเป็น งั้นมาดูวิธีง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อแอร์เข้าบ้านกัน
1.การเลือกประเภทของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะกับการใช้งาน
เครื่องปรับอากาศนั้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป หลักๆ แล้วการแบ่งประเภทของแอร์ก็สามารถแยกออกได้ 4 ประเภท ตามนี้
- เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง : ประเภทนี้จะเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ราคาไม่สูงมาก ติดตั้งก็ง่าย ไม่เปลื้องพื้นที่ ดูแลทำความสะอาดก็ง่ายมากๆ ส่วนใหญ่แล้วแอร์ประเภทนี้มักจะใช้ตามบ้านเรือน คอนโด หรือออฟฟิศสำนักงานขนาดเล็ก
- เครื่องปรับอากาศแบบแขวน : แอร์ประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมรองมาจากแอร์ติดผนัง มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ กระจายความเย็นได้ ราคาก็ไม่สูงมากนัก ติดตั้งง่าย สะดวกไม่เปลื้องพื้นที่บ้าน แม้ว่าห้องจะเล็กก็สามารถใช้แอร์ประเภทนี้ได้
- เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น : แอร์ประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับแอร์แบบแขวน คือ กระจายความเย็นได้ดี มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก จุดเด่นของแอร์ประเภทนี้คือ มีล้อเลื่อนสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก และสามารถใช้งานได้กับทุกห้อง แต่อาจจะเกะกะไปสักหน่อย ฉะนั้นต้องตั้งไว้มุมเพื่อจะได้ดูไม่เกะกะในการใช้งาน
- เครื่องปรับอากาศแบบฝังเพดาน : ซึ่งแอร์ประเภทนี้จะเป็นแบบฝังเข้าไปกับเพดาน แอร์มีขนาดใหญ่ เหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถปล่อยความเย็นออกมาจากตัวแอร์ 4 ทิศทาง เรียกว่ากระจายความเย็นได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเพิ่มความสวยงามได้ดีอีกด้วย ทำให้ไม่เห็นแอร์ที่ดูใหญ่เกะกะ
2.ขนาด BTU กับขนาดพื้นที่ของบ้านที่ต้องการติดตั้งแอร์
ข้อนี้คือสำคัญมากๆ ที่ควรจะต้องรู้ก่อนซื้อกันเลย เนื่องจากขนาด BTU นั้นจะคอยกำหนดความเย็นของขนาดห้องได้ และจะหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เราจะต้องจ่ายในทุกเดือน ฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรรู้คือ ขนาดพื้นที่ของห้องที่ต้องการจะติดตั้งแอร์ ว่ามีขนาดเท่าไร เพื่อที่จะได้กำหนดขนาดของ BTU ได้ถูกต้อง เพราะถ้าหาเลือก BTU ที่สูงหรือต่ำเกินไปจะทำให้เปลื้องค่าไฟฟ้า และทำให้แอร์เสียง่ายขึ้นอีกด้วย วิธีคำนวณง่ายมากๆ แต่ลองเอาความกว้าง x ความยาว x 650–800 BTU ต่อ 1 ตารางเมตร ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นขนาดของ BTU ที่เหมาะกับการใช้งานของห้องนั้น และยังสามารถบวกลบเพิ่มได้ เนื่องจากต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ตำแหน่งห้องอยู่ในทิศที่โดดแสงแดดหรือไม่ จึงจะสามารถคำนวณขนาดของ BTU ได้
3.ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟ
แน่นอนว่าการจะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรก็ตาม ควรที่จะต้องเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะจะทำให้ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี หรือให้เลือกซื้อแอร์ระบบ Inverter ก็จะช่วยประหยัดไฟได้เช่นกัน
สนใจ JARTON * UNI-Aire แอร์คุณภาพ เย็นฉ่ำ คุ้มค่าทุกการใช้งานคลิก
Login and Registration Form