เมนู Toggle

POPULAR

6 สาเหตุสังเกตได้ ตัวการทำแอร์เย็นช้า หรือไม่เย็นอีกเลย

6 สาเหตุสังเกตได้ ตัวการทำแอร์เย็นช้า หรือไม่เย็นอีกเลย

                    6 สาเหตุสังเกตได้ ตัวการทำแอร์เย็นช้า หรือไม่เย็นอีกเลย

         สำหรับปัญหาเรื่อง แอร์ไม่ค่อยฉ่ำ เย็นช้า หรือแม้แต่แอร์เย็นน้อยลงนั้นมีสาเหตุมาจากหลายประการ ดังนั้น JARTON จึงของรวบรวมสาเหตุแอร์ไม่เย็น เพื่อให้ผู้อ่านได้ลองตรวจเช็ก แก้ไขปัญหากันเบื้องต้น

 

  1. ขนาด BTU ไม่สัมพันธ์กับขนาดห้อง

         ขนาดของ BTU คือ ปริมาณความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องและทำความเย็นภายในเวลา 1 ชั่วโมง ยิ่งตัวเลข BTU สูง จึงยิ่งสร้างความเย็นได้ดี แต่การเลือกขนาด BTU ต้องดูความเหมาะสมประกอบด้วย ยกตัวอย่างในห้องที่มีขนาดกว้างแต่ติดตั้งแอร์ BTU น้อย เครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักและแผ่กระจายไอเย็นไม่ทั่วถึง ก่อนเลือกซื้อแอร์จึงควรคำนวณ BTU ของเครื่องปรับอากาศให้พอดีกับขนาดของพื้นที่ใช้งานก่อนเสมอ

หากตรวจเช็กแล้วว่า BTU แอร์มีน้อยเกินกว่าพื้นที่ใช้สอยจะรองรับได้ สามารถแก้ขัดปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยการติดตั้งพัดลมเสริม เพื่อให้พัดลมเป็นส่วนช่วยกระจายความเย็นได้ไวขึ้น แต่หากต้องการแก้ปัญหาในระยะยาว อาจเลือกวิธีติดตั้งแอร์เสริมอีกตัว หรือหากแอร์เดิมเก่า เสื่อมสภาพแล้วเลือกซื้อแอร์ใหม่ที่มีขนาด BTU สอดคล้องกับพื้นที่

 

  1. ช่างติดตั้งแอร์ไม่ได้มาตรฐาน

        เคยไหม ซื้อแอร์ใหม่มาติดตั้ง วันแรกๆ ก็เย็นไวดี แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว แอร์ค่อยๆ ลดประสิทธิภาพลงจนกระทั่งไม่เหลือความเย็นอีกเลย หากแอร์จะพังไวขนาดนี้ ให้สันนิฐานได้เลยว่า อาจเกิดจากกระบวนการติดตั้งที่ผิดวิธี

 

หากปัญหายังเกิดซ้ำๆ ลองหาช่างจากที่อื่นให้มาตรวจเช็ก เพราะบ่อยครั้งปัญหาที่พบอาจไม่ได้เกิดจากเครื่องปรับอากาศเสมอไป แต่อาจเกิดจากช่างแอร์ก็เป็นได้

 

  1. ฝุ่นสะสมมาก ต้องล้างแอร์

         การล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะทุกครั้งที่เครื่องปรับอากาศทำงานอาจดูดเอาไรฝุ่น เชื้อโรคเกาะติดภายในตัวเครื่องและคอมเพรสเซอร์ หลายคนใช้งานเป็นปีโดยไม่เคยล้างแอร์เลย ทำให้แอร์มีฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสม ส่งผลให้ระบบทำความเย็นของแอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แนะนำว่าควรจะต้องให้ช่างเข้าตรวจสอบและทำการล้างแอร์ทั้งระบบทุกๆ หกเดือน หรือปีละสองครั้ง แต่หากบ้านไหนเปิดใช้งานแอร์บ่อยทุกวันหรืออยู่ในโซนที่มีฝุ่นสะสมเยอะ ควรล้างแอร์ทั้งระบบทุกๆ 4 เดือนครั้ง ก็จะช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้การกระจายความเย็นเป็นไปอย่างคล่องตัว หลังล้างแอร์เสร็จใหม่ๆ รับรองได้เลยว่า แอร์เย็นไวขึ้นทันตาเห็น

 

  1. ปรับฟังก์ชันแอร์ผิดโหมด

        หลายครั้งที่พบว่าสาเหตุที่แอร์ไม่เย็นมาจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คาดไม่ถึง เช่น การปรับโหมดฟังก์ชันการใช้งานบนรีโมทผิดโดยที่ไม่รู้ตัว จนทำให้แอร์ไม่เย็นหรือเย็นมากเกินปกติ บางคนอาจเผลอปรับรีโมทเป็นฟังก์ชันพัดลม (FAN) ซึ่งเป็นโหมดที่มีเพียงลมออกมาเท่านั้น หรืออาจกำลังเปิดใช้งานโหมดอัตโนมัติ (Auto) อยู่ ซึ่งเป็นการสลับการทำงานระหว่าง Cool Mode (ทำความเย็น) และ Dry Mode (ลดความชื้น) สลับกันไป ทำให้แอร์ไม่เย็นฉ่ำเท่าที่ควร หากแอร์ไม่เย็นให้สังเกตที่รีโมทแอร์ก่อนว่าตั้งรีโมทแอร์ผิดโหมดหรือไม่ หากใช่เพียงปรับเป็น Cool Mode แอร์ก็จะเย็นสบายเช่นเดิม หรือลองศึกษาคู่มือให้ดีก่อนใช้งาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

 

  1. อยากเย็นต่อเนื่อง ต้องแอร์ระบบ Inverter

        เมื่อเอ่ยถึงแอร์ระบบ inverter เรามักจะจดจำกันในมุมของการ “ประหยัดค่าไฟฟ้ากว่าแอร์” แต่ความจริงแล้ว ด้วยกลไกการทำงานของแอร์ Inverter ยังมีคุณสมบัติด้านการทำความเย็นต่อเนื่องได้ดีกว่าแอร์ทั่วไป จึงช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้มีความสม่ำเสมอ ไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวเกินไป แตกต่างจากแอร์ทั่วไปที่จะตัดการทำงานเป็นครั้งๆ เช่น หากผู้ใช้ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ 25 องศา แอร์จะทำงานเผื่อไว้ล่วงหน้าไปถึง 22-23 องศา จากนั้นจะปิดการทำงานลง จนกว่าภายในห้องอุณหภูมิจะเกิน 25 องศา จึงกลับมาเริ่มทำงานใหม่

ส่วนแอร์ระบบ Inverter จะไม่ตัดการทำงาน แต่จะใช้วิธีทำงานเบาลงเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด และกลับมาทำงานปกติเมื่ออุณหภูมิเริ่มลดลง ทำให้อุณหภูมิความเย็นของแอร์ระบบ Inverter มีความต่อเนื่อง ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป และยังช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีอีกด้วยครับ แต่แอร์ระบบ Inverter ก็ไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีอุณหภูมิแกว่ง เช่น ห้องที่มีคนเข้าออกบ่อยๆ เพราะจะทำให้แอร์ Inverter ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้นิ่งได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกแอร์ไม่ว่าจะเป็น Inverter หรือ Non-Inverter อย่าลืมสำรวจลักษณะการใช้งานของห้องกันก่อน

 

  1. ตำแหน่งแอร์และคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่เหมาะสม

        ตำแหน่งการติดตั้งแอร์มีส่วนสำคัญในเรื่องความเย็น หากติดตั้งบนผนังด้านที่กระทบแดดทั้งวันมีความร้อนสูง, อยู่ไกลจากพื้นที่ใช้งานมากเกินไป หรือจัดวางทิศทางลมไม่เหมาะสมย่อมส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นในห้องลดลงได้เช่นกันครับ

ส่วนตำแหน่งคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นจุดที่หลาย ๆ บ้านมักมองข้ามเพราะติดตั้งไว้ภายนอก หากคอมเพรสเซอร์กับแอร์ มีระยะห่างมากเกินไป จะต้องเดินท่อน้ำยาแอร์ยาวขึ้น จึงส่งผลให้แอร์ทำงานช้ากว่าปกติได้ โดยมาตรฐานทั่วไปจะติดตั้งในระยะไม่เกิน 10-15 เมตรในแนวนอน และไม่เกิน 5 เมตรในแนวตั้ง หรือตามข้อมูลในคู่มือเครื่องปรับอากาศรุ่นนั้นๆ กำหนด กรณีจำเป็นต้องเดินท่อแอร์ยาวกว่าปกติ แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะติดตั้งให้

ก่อน “เครื่องฆ่าเชื้อในอากาศ JARTON” ผู้ช่วยสำคัญ เพื่อการดูแลสุขภาพยุคโควิด
ต่อไป 3 ปัญหาสุดฮิต “กล้องวงจรปิด” ที่มาพร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น