กิจกรรม Earth Hour เชิญชวนผู้คนทั่วโลกปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนมีนาคมของทุกปี เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน สร้างชั่วโมงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้กับโลกของเรา

Earth Hour เป็นโครงการริเริ่มด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่ออนาคตที่ยั่งยืน และความจำเป็นในการบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้สนับสนุนกว่า 190 ประเทศ และได้มอบเวลาให้กับโลกของเรามากว่า 410,000 ชั่วโมง โดยกิจกรรมปิดไฟจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ ซึ่งในปีนี้จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2024

สถานการณ์พลังงานทั่วโลกเข้าสู่สถานการณ์วิกฤต เนื่องจากปัญหาสงครามที่เกิดขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้ความต้องการในการใช้พลังงานลดลงตามไปด้วย สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า จากวิกฤตด้านพลังงานและภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอาจทำให้ความต้องการใช้พลังงานโลกชะลอตัวลงในปี 2023 โดยอัตราการขยายตัวของการใช้พลังงานทั่วโลกชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 2% ในปี 2023 แต่อุปสงค์พลังงานอาจฟื้นตัวได้ในปี 2024 ซึ่งคาดว่าอัตราการขยายตัวของการใช้พลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น

ในปัจจุบันอุณหภูมิโลกกำลังเข้าสู่ภาวะอุณหภูมิที่สูงที่สุดในรอบ 125,500 ปี และมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับอุณหภูมิที่อาจร้อนเกินเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียสอย่างเร็วที่สุดภายในทศวรรษนี้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้นได้

ตามการรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจน้ำมันและก๊าซทั่วโลก ที่ระบุว่าในปัจจุบันมีการลงทุนมูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี อาจต้องลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 หากต้องการบรรลุเป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้ร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยต้องไม่มีการดำเนินโครงการระยะยาวใหม่ ๆ ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ และอาจจำเป็นต้องยุติบางโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

เพื่อบรรลุเป้าหมายจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้ร้อนขึ้น อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 60% ภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการควบคุมภาวะโลกร้อนให้ไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส จากค่าเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมตามที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีส

Earth Hour จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์พลังงาน และช่วยจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพียงผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาและร่วมมือกันในการลดการใช้พลังงาน จะช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนได้