ชวนรู้จัก 5 เทรนด์ Smart Home ตอบโจทย์การใช้งานคอนโดยุคใหม่

     นอกจากทำเลต้องเด่น ดีไซน์ต้องสวย ฟังก์ชันพื้นฐานต้องครบแล้ว ปัจจุบันผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหลายรายยังพยายามเพิ่มคุณค่า ด้วยการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยให้สอดรับกับยุคดิจิทัลในรูปแบบ “บ้านอัจฉริยะ” (Smart Home) ใครที่กำลังมองหาโครงการพัฒนาใหม่จึงจำเป็นต้องรู้ ว่าถ้าอยากซื้อคอนโดฯ แบบไม่ตกเทรนด์ ในคอนโดฯ ตัวเองควรต้องมีอะไรบ้าง

1. กุญแจดิจิตอล (Digital Door Lock)

        ถ้าอยากรู้สึกว่าคอนโดฯอัจฉริยะ ต้องเริ่มตั้งแต่หน้าห้อง ตอนนี้เริ่มจะเป็นมาตรฐานสำหรับคอนโดฯ ระดับพรีเมียมที่เปิดตัวใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมาแล้ว ว่าจะต้องติด Digital Door Lock ให้กับผู้ซื้อด้วย โดยประโยชน์ของเจ้า Digital Door Lock นี้ก็คือการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะสำหรับคุณผู้หญิงหรือผู้ที่อยู่คนเดียว

      ราคา Digital Door Lock เองก็ไม่ได้มีแต่รุ่นราคาหลักหมื่นออกมาเหมือนแต่ก่อน เชื่อว่าในอนาคต ผู้พัฒนาคอนโดฯ ระดับราคาอื่นๆ ก็จะเริ่มนำ Digital Door Lock เข้ามาให้กับผู้ซื้อมากขึ้น ส่วนใครที่มีคอนโดฯ อยู่แล้ว และอยากให้คอนโดฯ ตัวเองมีความปลอดภัยมากขึ้น ก็สามารถหาซื้อ Digital Door Lock มาติดเองได้ ตั้งแต่ราคาหลักพันถึงหลักหมื่น

2. ระบบควบคุมการทำงานในบ้านและอุปกรณ์อัจฉริยะ (Home Automation & Smart Device)

         เชื่อหรือไม่ ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในคอนโดฯ ของคุณ สามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ หรือ Smart Device ได้ เพราะเทรนด์ในตอนนี้ คือการเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ของคุณให้สามารถสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต คุณสามารถเปิด-ปิดไฟ ตู้เย็น แอร์ ไมโครเวฟ หรือแม้กระทั่งของที่เดิมอาจไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง “ผ้าม่าน” ได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ในหรือนอกคอนโดฯ ก็สามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านหน้าจอ

      เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าจะเห็นได้ชัดเจนแน่นอนในไม่ช้า เพราะทั้งค่ายอสังหาฯ ค่ายเทคโนโลยี ค่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ต่างกระโดดลงมาช่วยกันพัฒนาตลาดนี้ เตรียมยกสวิตช์ทุกอย่างในบ้านมาไว้บนหน้าจอสมาร์ทโฟนได้เลย

3. ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะและระบบสั่งการด้วยเสียง (Personal Assistant & Voice Command)

        เรามักจะเห็นพระเอกภาพยนตร์ไซไฟบางเรื่อง คุยกับผู้ช่วยอัจฉริยะที่ “ไม่ใช่คน” และสั่งการสิ่งต่างๆ มากมายผ่านผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะนี้ เรื่องเหล่านี้กำลังจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแค่ในภาพยนตร์อีกต่อไป เพราะปัจจุบันเริ่มมีค่ายพัฒนาอสังหาฯบางค่ายพิจารณานำเรื่องผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ หรือ Personal Assistant และระบบสั่งการด้วยเสียง หรือ Voice Command เข้ามาอยู่ใน Smart Home ที่ตัวเองกำลังพัฒนาแล้ว

      นั่นหมายความว่า เราจะสั่งให้เจ้าผู้ช่วยอัจฉริยะนี้ช่วยทำเรื่องต่างๆ ให้เราได้ ทั้งช่วยเช็กค่าน้ำ ค่าไฟ หรือแม้กระทั่งสั่งให้เปิด – ปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จนรู้สึกเหมือนเป็นพระเอกหนังไซไฟขึ้นมาทันที โดยปัจจุบันค่ายอสังหาฯ กำลังเริ่มพัฒนาเรื่องนี้ให้เป็นรูปเป็นร่าง ใครอยากทดลองระบบสั่งการด้วยเสียงก่อน ก็สามารถซื้ออุปกรณ์ของค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google หรือ Apple มาทดลองเล่นก่อนได้เลย

4. เครื่องตรวจจับอัจฉริยะ (Smart Sensor)

          เพราะหลายๆ ครั้ง เราอาจไม่สะดวกจะเป็นคนสั่งเองว่าอะไรควรจะเปิด อะไรควรจะปิด และอยากให้อุปกรณ์ทั้งหลายช่วยรู้เองว่าตอนนี้ควรจะเปิดหรือปิด เทรนด์สมาร์ทโฮมยุคใหม่ จึงมีเรื่อง Smart Sensor โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับโมชันเซ็นเซอร์ (Motion Sensor) คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวของเรา

       เช่น หากมีใครเดินผ่านเจ้าเครื่องโมชันเซ็นเซอร์ ไฟก็จะเปิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยีนี้ช่วยทั้งเรื่องความปลอดภัย แถมยังช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น จะลุกมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ไฟก็เปิดขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อเราเดินผ่าน

5. กระจกอัจฉริยะ (Smart Mirror)

        กระจกอาจไม่ได้มีประโยชน์ไว้แค่ส่องชมความสวยความหล่อของตัวเองอีกต่อไป เพราะต่อไปนี้ส่วนหนึ่งของกระจกจะกลายเป็น Smart Mirror เสมือนแท็บเล็ตย่อมๆ ให้คุณใช้เช็กสภาพอากาศ เช็กราคาหุ้น เช็กค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง และอีกมากมายได้ในขณะที่คุณยืนแปรงฟันหรือทำธุระอะไรก็ตามในห้องน้ำ ตอนนี้โครงการระดับไฮเอนด์เริ่มมีการนำ Smart Mirror เข้ามาให้ผู้ซื้อกันบ้างแล้ว