เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
15 วิธี “ป้องกันบ้าน” อย่างไร ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโจร
ในสภาพสังคมปัจจุบันที่มีภัยอันตรายอยู่รอบตัว โดยเฉพาะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับที่พักอาศัยของคุณ เห็นได้จากตามข่าวหนังสือพิมพ์ หรือรายการข่าวทางทีวี ที่มักจะมีข่าวเรื่องการ ยกเค้า ย่องเบา ตามบ้านเรือนของสุจริตชนมากมาย บางรายก็ได้ทรัพย์สินไปมากบ้างน้อยบ้าง หรือที่แย่กว่านั้น บางรายนอกจากต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองแล้ว ยังเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วยก็มี ดังนั้นหากเราสามารถป้องกันอันตรายต่างๆ ไว้ก่อนได้ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับ ข้อควรปฏิบัติ เพื่อการป้องกันมิจฉาชีพและเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินภายในบ้านของเรามาฝากกัน มาดูว่ามีวิธีใดบ้าง
1. อย่าเปิดไฟทิ้งโชว์ไว้ทั้งวัน ทั้งคืน
อันนี้ก็คิดเองว่า ถ้าเปิดไฟไว้แบบทั้งวันทั้งคืน โจรก็จะรู้ว่าไม่มีคนอยู่บ้านขัวร์ เพราะถ้าคนอยู่บ้านคงไม่มีใครบ้าพอที่จะเปิดไฟไว้ทั้งวันท้ังคืนหรอก เปลืองแถมเปิดไว้ตอนกลางวันก็ไม่มีประโยชน์อีกล่ะ ดังนั้นควรใช้แบบอัตโนมัติแสงอาทิตย์ หรือตั้งเวลาเปิดหรือปิดได้เองจะดีกว่า
2. การคล้องกุญแจประตูรั้ว
ต้องคล้องจากด้านในและมีแผงเหล็กบังไว้อีกที เพื่อให้โจรมีความยากในการงัดแงะอีกนิด เสียเวลาเพิ่มอีกหน่อย เผื่อว่าใขณะที่โจรเสียเวลาอาจมีคนมาพบเห็นก็เป็นได้ (แค่หวังนะ ต่อเวลาอีกนิด)
3. การติดเหล็กดัด
ติดเหล็กดัดจากด้านในเป็นดีที่สุด เพราะงัดยากขึ้น ถ้าติดเหล็กดัดจากด้านนอก นั่นก็หมูเกินไป โจรก็แค่ตัดแล้วก็เข้าไปได้อย่างสบาย
4. อย่าติดกล่องรับ นสพ. หรือไปรษณีย์โปร่งๆ
อันนี้ถ้าโจรเห็นว่ามีจดหมายกองสุมๆ อยู่ในกล่องรับหนังสือพิมพ์ หรือกล่องจดหมาย พี่แกก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าบ้านนีี้ไม่มีคนอยู่ ก็จะตกเป็นเป้าหมายต่อไปได้
5. โจรมักจะเลือกบ้านเดี่ยวที่มีรั้ว
ทำไมโจรมักเลือกบ้านเดี่ยวที่มีรั้ว อันนี้คิดเองว่า เพราะเมื่องัดบ้านเกิดมีเสียงคนที่ได้ยินก็อาจคิดว่าเป็นเจ้าของบ้าน มองเข้าไปก็ไม่ได้เห็นชัดนัก เนื่องจากมีรั้วและถ้าเกิดต้องเข้าไปดูก็ต้องผ่านรั้วต้องใช้เวลาและอาจไม่กล้าเข้า เพราะเป็นบ้านคนอื่น
6. ช่วงเวลาที่โจรลงมือ
ตีสามขึ้นไปแล้ว เพราะเป็นเวลาที่คนหลับสนิท บ้านใกล้เรือนเคียงก็หลับมีเสียงนิดๆ หน่อยก็ไม่ได้รู้สึกแถมอาจจะขี้เกียจออกมาดู เพราะกำลังเพลิดเพลินกับการนอนอยู่
7. โจรมักจะมาดูลาดเลา ตอนกลางวันก่อน
โจรก็จะมาดูลาดเลาในตอนกลางวัน พอตกกลางคืนสภาพบ้านยังเหมือนกลางวันที่ได้ดูไว้แล้ว ก็จะแน่ใจและลงมือเลย
8. ถ้าสภาพบ้านเหมือนไม่มีใครอยู่
แม้ดูแล้วเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่ว่าถ้าโจรเกิดงัดๆ อยู่แล้วสังเกตุหรือได้ยินเสียงแอร์ทำงานล่ะก็พี่แกก็จะยกเลิกการงัดบ้าน
9. ตู้เซฟไม่ควรเลือกใช้แบบมีบานพับ
แม้จะเป็นตู้เซฟอย่างดี แต่ถ้ามีบานพับยื่นออกมา โจรจัดการได้ เพราะโจรใช้เลื่อยตัดบานพับก่อนแล้วค่อยงัด ฉะนั้นให้เลือกตู้เซฟแบบไม่มีบานพับเป็นดี
10. ตู้เซฟไม่ว่าใหญ่แค่ไหน
ถึงใหญ่แต่ถ้าทำให้ตู้มันนอนลงได้ โจรก็สามารถใช้แชลงงัดตู้เซฟได้อยู่ดี
11. การเลือกตู้เซฟเก็บของมีค่า
ถ้าเลือกตู้เซฟเก็บของมีค่าแล้วล่ะก็คุณโจรบอกให้เลือกแบบที่มีบานพับอยู่ด้านใน (บานพับอยู่ด้านในนะ ห้ามอยู่ด้านนอก ด้านนอกตัดง่าย ด้านในดีกว่า)
12. การเลือกตู้เซฟเก็บของมีค่า
ให้ทำช่องโบกปูนและเอาตู้เซฟฝังเข้าไปด้านใน ให้โจรดึงตู้ออกมาไม่ได้ ก็จะไม่สามารถงัดได้ อันนี้แค่ป้องกันการงัดนะ ส่วนเทคโนโลยี่อย่างอื่นก็ให้ไปศึกษาเพิ่มเติม เช่น ระบบล็อกด้วยรหัสหรืออื่นๆ
13. สิ่งที่โจรทำเมื่อเข้าบ้านได้
เมื่อโจรขึ้นบ้านได้ จะตรงดิ่งไปจัดการที่ชั้น 2 เลย เพราะชั้นล่างมักไม่มีของมีค่าที่ต้องการ
14. ตำแหน่งของมีค่าที่โจรมักมองหา
ของมีค่าที่คนเรามักเก็บไว้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ห้องนอน ในตู้เสื้อผ้า ตู้หัวเตียง (ใครที่ชอบทำแบบนี้ต้องพยายามหาที่เก็บอื่น)
15. ควรติดสัญญาณกันขโมย
ส่วนใหญ่เวลางัดบ้าน ก็จะงัดตามประตูหน้าต่าง ดังนั้นต้องติดเซนเซอร์ประตู - หน้าต่าง RF433 สมาร์ทโฮม Wi-Fi JARTON ไว้ตามจุดเหล่านี้ เมื่อถูกงัดอุปกรณ์ก็จะส่งสัญญาณเตือนทำให้โจรตกใจหนีทันที
บ้านปลอดภัย โจรตกใจกลัว
ด้วยเซนเซอร์ประตู - หน้าต่าง RF433 สมาร์ทโฮม Wi-Fi JARTON
คุณสมบัติ
มาตรฐาน: FCC / CE / RoHs
รองรับระบบ: Wi-Fi คลื่น 2.4 GHz / ความถี่ 433MHz
ระยะการใช้งาน: 15 เมตร
รองรับการจัดการ: ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน JARTON Home
การแจ้งเตือน: ผ่านมือถือ / ไฟสถานะเตือนเมื่อถ่านใกล้หมด จากสีแดงเป้นสีน้ำเงิน
ใช้งานคู่กับสินค้า: ชุด Gateway สัญญาณกันขโมย พร้อมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม Wi-Fi
ระยะการเชื่อมกับ Gateway: 150 เมตร
Login and Registration Form