Smart Home กับ 5 เทคโนโลยี เพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

บ้านอัจฉริยะ หรือสมาร์ทโฮม (Smart Home) เป็นหนึ่งในจุดขายที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นำมาใช้ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวโครงการ เจาะกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนรุ่นใหม่ และคนที่สนใจในเรื่องของเทคโนโลยี ที่เข้ามาช่วยให้การอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในบ้านสะดวกสบายและง่ายขึ้นกว่าเดิม

บ้านอัจฉริยะ คืออะไร

บ้านอัจฉริยะ คือ บ้านที่ใช้เทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยและอีกหลาย ๆ อย่างที่บ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮมทำได้ในโลกยุคดิจิทัล

บ้านอัจฉริยะ ควรมีอะไรบ้าง

ปัจจุบันโครงการที่อยู่อาศัยหลาย ๆ แห่งมีการพัฒนาสู่การเป็นบ้านอัจฉริยะ หรือสมาร์ทโฮม (Smart Home) โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะระบบไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบพลังงาน หรือระบบควบคุมต่าง ๆ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้น

ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้ปัจจัยที่ผู้ซื้อบ้านในยุคนี้ใช้ในการพิจารณา ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโด จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการออกแบบ ความสวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบเดิม ๆ อีกต่อไป แต่มองหาความแตกต่างที่ช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น ลองมาดูว่าบ้านอัจฉริยะยุคนี้ต้องมีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. Smart Device อุปกรณ์อัจฉริยะ

เปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายบ้านให้กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ หรือ Smart Device ในบ้านอัจฉริยะ ที่สามารถควบคุมการทำงานและสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เช่น เปิด-ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งของที่เดิมอาจไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ผ้าม่าน หน้าต่าง ประตู ได้ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ในหรือนอกบ้าน ก็สามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน

2. Smart Speaker ระบบการสั่งการด้วยเสียง

การใช้ชีวิตในบ้านสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะบ้านอัจฉริยะมีระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) ซึ่งจะเทคโนโลยี AI เชื่อมกับอุปกรณ์ IoT หรือ Internet of Things อื่น ๆ ผ่านสปีกเกอร์และดิสเพลย์ในแต่ละจุดของบ้าน ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวของเจ้าของบ้าน (Personal Assistant) ที่จะคอยรับคำสั่งและปฏิบัติตาม เช่น เปิด-ปิดไฟ ควบคุมและปรับระดับเสียงเพลงและทีวีภายในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

โดยปัจจุบัน command language ที่ใช้กับ Smart Speaker ระบบสั่งการด้วยเสียงในบ้านอัจฉริยะ ได้มีการพัฒนาให้สามารถเข้าใจวิธีการสั่งงานด้วยคำพูดที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ และสามารถสื่อสารด้วยสำเนียงหรือวิธีการพูดที่หลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวก ง่ายต่อการใช้งาน และเหมาะกับทุกเจเนอเรชั่นมากขึ้น

3. Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ

กระจกในบ้านอัจฉริยะ ต้องเป็นกระจกอัจฉริยะที่ไม่ได้ใช้ส่องดูความสวยหล่อเท่านั้น แต่ Smart Mirror เปรียบเสมือนเป็นแท็บเล็ตที่ใช้งานได้หลากหลาย เช่น มีหน้าปัดแสดงเวลา บอกอุณหภูมิ เช็กสภาพอากาศ ราคาหุ้น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง สามารถเปิดเพลง ดูวิดีโอจากโทรศัพท์ หรือมี Bluetooth เพื่อใช้คุยโทรศัพท์ได้ และอีกมากมาย ได้ในขณะที่ยืนแปรงฟันหรือทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ตอบสนองพฤติกรรมผู้อยู่อาศัยนยุคที่โลกออนไลน์มีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน

4. Smart Sensor เครื่องตรวจจับอัจฉริยะ

บ้านอัจฉริยะ มี Smart Sensor เครื่องตรวจจับอัจฉริยะที่คอยตรวจจับความเคลื่อนไหว ด้วยโมชันเซ็นเซอร์ (Motion Sensor) ที่นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น ตอนดึก ๆ ลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินไปเปิด-ปิดไฟ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดไฟฟ้า เพราะไฟจะเปิดก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวเท่านั้น และยังช่วยเรื่องของความปลอดภัย เวลามีใครเดินผ่านเครื่องโมชันเซ็นเตอร์ หรือเวลาที่มีโจรเข้าบ้าน ไฟก็จะเปิดสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ

5. Smart Digital Door Lock ล็อกประตูอัจฉริยะ

ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ หรือกลอนประตูดิจิทัลถูกจัดรวมไว้ในบ้านอัจฉริยะ เป็นนวัตกรรมความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในคอนโดและบ้านสมัยใหม่ที่ไม่ต้องใช้กุญแจเปิดปิดประตูอีกต่อไป เพียงกดรหัส ใช้คีย์การ์ดที่บันทึกไว้ หรือสแกนลายนิ้วมือ ผู้ได้รับอนุญาตก็สามารถเปิดประตูเข้าบ้านได้ และจะร้องเตือนทันทีเมื่อถูกงัดแงะ จึงปลอดภัยกว่าประตูระบบกุญแจที่ง่ายต่อการถูกสะเดาะและไม่มีการร้องเตือนใด ๆ

มากกว่านั้นปัจจุบัน กลอนประตูดิจิทัลในบ้านอัจฉริยะยังสามารถสั่งปลดล็อกด้วยรหัส หรือ Touch ID ได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน หมดปัญหาในกรณีที่ลืมนำกุญแจมา ประตูล็อคเองโดยไม่ตั้งใจ หรือทำกุญแจหายเข้าบ้านไม่ได้

            ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบ้านอัจฉริยะในปัจจุบัน ซึ่งในอนาคตคงต้องติดตามกันว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองด้านความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตที่มากขึ้น และเป็นจุดขายที่จะสามารถดึงดูดใจผู้ซื้อ