เมนู Toggle

POPULAR

เทคนิคเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอย่างไร? ให้เหมาะที่พักอาศัย

 เทคนิคเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอย่างไร? ให้เหมาะที่พักอาศัย
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

      เมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเราในหลายๆ ด้านมากยิ่งขึ้นไม่เว้นการทำความสะอาดบ้านก็ทำให้งานที่คุ้นเคยและแสนจะน่าเบื่อของพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายให้กลายเป็นเรื่องง่ายเรื่องสนุกขึ้น โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นหรือ Robot Vacuum Cleaner ก็ได้กลายมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านที่คอยช่วยดูแลเรื่องความสะอาดในเรื่องจัดการฝุ่นผง ตัวการสำคัญของความสกปรกภายในบ้าน โดยที่ไม่ต้องมาคอยกวาดหรือถือเครื่องดูดฝุ่นด้วยมือตัวเองอีกต่อไป ใครที่กำลังสนใจเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ยังไม่รู้จะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ ครั้งนี้ JARTON ได้รวบรวมข้อมูลมานำเสนอกัน

 

วิธีเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

  1. ตรวจดูพื้นบ้านและสภาพแวดล้อมโดยรวม

      ก่อนอื่นเลยต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไม่ได้เหมาะกับทุกบ้านหรือทุกสภาพแวดล้อม เพราะปกติการทำงานของหุ่นยนต์จะวิ่งวนไปทั่วทั้งห้อง พื้นของบ้านจึงควรราบเรียบพอสมควร ไม่มีขอบกั้นหรือสิ่งกีดขวางระหว่างห้องเยอะเกินไป หากมีการเล่นระดับสูงต่ำมาก อาจทำให้เซนเซอร์หุ่นยนต์ตรวจพบและไม่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อป้องกันตัวเองเสียหาย หรือการทำงานติดขัดหยุดไปโดยทันทีก็ได้

 

  1. เลือกจากขนาดพื้นที่

      หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นมีความสามารถในการดูแลและครอบคลุมพื้นที่ต่างกัน โดยเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับจำนวนความจุของแบตเตอรี่ เพราะยิ่งความจุเยอะเท่าไหร่ยิ่งสามารถดูแลพื้นที่ได้กว้างขึ้นเท่านั้น เช่นต่ำกว่า 100 ตร.ม. หรือมากกว่า 100 ตร.ม. เป็นต้น ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก เนื่องจากหลายคนไปให้ความสำคัญกับฟีเจอร์หรือเทคโนโลยีพิเศษจนลืมเรื่องพื้นฐานจนซื้อผิดต้องมาคอยทำความสะอาดพื้นที่ส่วนเกินอยู่ดี

 

  1. ดูฟีเจอร์การใช้งานที่เหมาะสม

      หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถือว่าเป็นนวัตกรรมที่รวมเอาเทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่เหมาะสมและอำนวยความสะดวกในการกำจัดฝุ่นในบ้านไว้หลากหลาย โดยเราขอแบ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรต้องมีทุกเครื่องกับฟีเจอร์เสริมที่สามารถเลือกดูตามความเหมาะสมและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน

 

แบบพื้นฐาน       

      – วิ่งทำความสะอาดเองได้โดยไม่มีสาย

      – ตั้งเวลาการทำงานได้

      – วิ่งกลับแท่นชาร์จได้เอง

      – สามารถสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรล

      – มีสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อขยะเต็ม

 

ฟีเจอร์เสริม    

      – ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นที่       

      – สั่งงานผ่านทาง Wi-Fi

      – สามารถจดจำและทำงานต่อจากพื้นที่ ที่ยังทำความสะอาดไม่เสร็จ

      – เซ็นเซอร์ป้องกันการตกจากบันไดหรือที่สูง    

      – ส่งข้อมูลการทำความสะอาดแบบ Real time หรือข้อมูลสำคัญต่างๆ เช่น แบตเตอรีคงเหลือไปยัง Smart Phone 

      – ถูพื้นได้

      – สร้างกำแพง Virtual ขึ้นมาเพื่อไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป

 

พิจารณาระบบนำทาง

      สิ่งที่จำเป็นสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทุกรุ่นเลยก็คือระบบนำทางนั่นเอง เพราะถ้าไม่มีตรงส่วนนี้ การทำงานก็จะไม่มีเป้าหมาย ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีอยู่ 3 แบบนั่นเอง

 

Mapping Camera

      ใช้กล้องขนาดเล็กในการถ่ายภาพแต่ละส่วนของห้อง เพื่อใช้ในการกำหนดทิศทาง

 

Infrared sensor

      เมื่อไปกระทบกับสิ่งกีดขวางจะใช้เซ็นเซอร์แบบอินฟราเรดยิงสัญญาณไปยังพื้นที่ว่างและกำหนดทิศทางใหม่

 

Laser Distance Sensor

      ตัวเครื่องจะมีแท่นยื่นออกมาเป็นตัวยิงเลเซอร์เพื่อวัดระยะ และกำหนดทิศทาง ซึ่งระบบนี้จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเดินทางได้แม่นยำมากที่สุด

.

.

JARTON Robotic หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะระบบโจโรสไคป

 

คุณสมบัติ / Features

      - รองรับระบบ Wi-Fi คลื่น 2.4 GHz

      - พลังดูดปรับได้สามระดับสูงสุดที่ 1,500 pa

      - ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ดูดฝุ่น, กวาดฝุ่น, ถูพื้น

      - ต้านการชน-การตกจากขอบด้วย sensor 8 ตัว

      - ความจุแบตเตอรี่ 4,400 mAh พร้อมแท่นชาร์จอัตโนมัติ

      - เวลาในการใช้งานสูงสุด 150 นาที

      - สร้างแผนที่ตอนทำงานได้ (เหมาะสำหรับพื้นที่ 200 ตร.ม.)

      - เวลาในการชาร์จ 3-4 ชม.

      - ความจุถังขยะ 650 มล. / ถังน้ำ 150 มล.

      - คุณภาพดี มีรับประกันสินค้า

.

.

      สนใจหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ JARTON บ้านสะอาดสะดวกสบาย สั่งการได้ทุกที่ สินค้าคุณภาพได้มาตรฐานคลิก

ก่อน สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง ที่ควรมีในโครงการบ้าน - คอนโดยุคดิจิทัล
ต่อไป ใช้ไขควงวัดไฟอย่างไร? ให้ปลอดภัยไม่โดนไฟดูด