เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในบ้านเราล่าสุด มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทุกคนต่างต้องป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้โดนโควิดทำร้าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 8 กลุ่มผู้ป่วยซึ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเนื่องจากเสี่ยงมีอาการรุนแรงกว่าปกติ โดยควรปฏิบัติดังนี้
8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากติดโควิด 19
1. โรคเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงหากติดโควิด 19 เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีและมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเป้าหมาย มักมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้การติดเชื้อยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนและควบคุมได้ยาก ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีในภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ดังนั้นในช่วงระบาดของโควิด 19 ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัว ดังนี้
2. โรคไตเรื้อรัง
ผู้ป่วยโรคไตซึ่งอยู่ในขั้นที่ 3 ถึง 5 ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดและผู้ป่วยที่เปลี่ยนถ่ายไตอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในการมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดอาจมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนปกติทั่วไป นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นผู้ป่วยควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้
3. โรคปอดและทางเดินทางหายใจ
ผู้ป่วยโรคปอดและทางเดินหายใจที่มีความเสี่ยงสูง คือ ผู้ป่วยโรคหืดหอบระดับปานกลางถึงรุนแรงและผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคปอดอักเสบเรื้อรังและโรคซิสติก ไฟโบรซิส เนื่องจากโควิด 19 มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นอาการหอบหืดและอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคร้ายแรงอื่นๆ สำหรับผู้ป่วยโรคปอด โควิด 19 อาจทำให้โรคปอดกำเริบหนักขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงข้อควรปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคปอดและทางเดินหายใจคือ
4. โรคอ้วน
ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงคือผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 40 ขึ้นไปหรือตั้งแต่ 30 ขึ้นไปสำหรับชาวเอเชีย ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงมีความเสี่ยงในการเกิด กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคโควิด 19 นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงยังมีโรคประจำตัวเรื้อรังอื่นๆ ที่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการมีอาการที่รุนแรง ดังนั้นควรปฏิบัติดังนี้
5. โรคตับ
ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง เช่น โรคตับแข็ง ผู้ป่วยปลูกถ่ายตับที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยภาวะที่มีตับอักเสบจากภูมิไวเกิน (AIH) และผู้ป่วยมะเร็งตับที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยคีโม มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรกหากติดโควิด 19 เนื่องจากอาการป่วยจากโรคโควิด 19 รวมถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของตับ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับอยู่เดิม ดังนั้นควรปฏิบัติดังนี้
6. ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง กลุ่มผู้ป่วยโรคเอดส์ คนที่สูบบุหรี่ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงเนื่องจากภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังอาจติดเชื้อนานกว่าผู้ป่วยโควิด 19 กลุ่มอื่นๆ ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำดังนี้
7. ผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
เช่น ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากยากดภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่แต่ขณะเดียวกันทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้นและอาจมีความรุนแรงของการติดเชื้อสูงขึ้น
8. ผู้ป่วยโรคหัวใจ
หากติดโควิด 19 อาจมีอาการหัวใจวายหรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ อาการโรคหัวใจที่รุนแรงยิ่งขึ้นนี้เกิดจากอาการป่วยของการติดเชื้อไวรัสและการที่หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นจากภาวะไข้ ประกอบกับระดับออกซิเจนที่ต่ำลงจากปอดบวมและโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน (Myocarditis) ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด 19 อีกด้วย ถึงแม้ไม่มีวิธีการป้องกันใดๆ เป็นพิเศษ แต่ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวดังนี้
แหล่งอ้างอิง : โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์
Login and Registration Form