เราใช้คุกกี้เพื่อทำให้ประสบการณ์ของคุณดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งใหม่ของ e-Privacy เราจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณในการตั้งค่าคุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติม
1. เราสนิทแต่ไม่ต้องชิดเขต (บ้าน)
ตามกฎหมายเรามีสิ่งที่เรียกว่า "แดนกรรมสิทธิ์" ซึ่งไม่ได้มีแค่บนดินท่านั้น ยังรวมไปถึงใต้ดินอีกด้วย ในกรณีที่ต้องการก่อสร้างและต่อเติมอะไร ต้องระวังระยะดังนี้
2.รั้วนั้นของฉันหรือของเธอ
ตามหลักในข้อกฎหมาย รั้วบ้าน รั้วต้นไม้หรือคูน้ำ ที่กันบ้านนั้น เป็นความรับผิดชอบในการดูแลของ "ทั้งคู่" หากต้องการซ่อมแซมหรือรื้อถอนดัดแปลง ต้องได้รับความยินยอม ไม่สามารถทำโดยพลการได้ และในบางพื้นที่ก็มีข้อกำหนดต่างๆดังนี้ด้วย
3.ฝนตกบ้านนี้ ฉ่ำถึงบ้านนั้น
หน้าฝนทีไร เอาแค่ดูแลบ้านตัวเองก็ลำบากแทบตาย ยังต้องระวังความฉ่ำวนไปหาคุณพี่ข้างบ้านเราอีก!ดังนั้นเราดูระยะหลังคาบ้านเราและทำการต่อเติมรางน้ำฝนเพื่อไม่ให้ฝนที่ไหลลงจากหลังนั้นนั้น ตกไปถึงข้างบ้านเราเด็ดขาด เพราะเสี่ยงจะโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้
4. วิวทิวทัศน์ที่ไม่น่าอภิรมย์ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดใจกันแน่นอน
ตามกฎหมายเราไม่มีสิทธิ์ในแสงแดด อากาศ และวิวอยู่แล้ว แต่การที่เราอาจจะไปสร้างบ้านหรือต่อเติมบดบังทิวทัศน์ ช่องทางลม เพื่อนบ้าน อันนี้ก็ถือว่าไม่ดีเลย แนะนำว่าหากต้องการต่อเติมอะไร ควรเจรจากับเพื่อนบ้านก่อน เพราะสังคมจะน่าอยู่ถ้าเราใส่ใจกันมากพอ
5.ผลไม้ของเธอ ฉันขอนะ
ดอกหรือผลที่โตข้ามเขตบ้านแต่ไม่ได้ร่วงหล่นเองตามธรรมชาติไม่สามารถเด็ดได้ เพราะถือเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของต้นไม้ มีความทางอาญาเลยทีเดียว กรณีที่ปลูกต้นไม้หรือไม้เลื้อยไว้ริมรั้วแล้วเกิดแตกกิ่งก้านตลอดจนส่วนของรากยื่นเข้ามาในเขตบ้าน เจ้าของบ้านสามารถขุดรากและตัดกิ่งก้านออกได้เลย แต่จะทำลายทิ้งทั้งต้นไม่ได้ หากเห็นต้นไม้นั้น ๆ โอนเอนดูอันตรายเจ้าหน้าที่สามารถสั่งขุดถอนทิ้งได้
6. หน้าบ้านเรา แต่รถนั่นของคนข้างๆ (บ้าน)
พื้นที่ของบ้านส่วนใหญ่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น ทาวน์เฮ้าส์หรืออาคารพาณิชย์ จึงทำให้มีพื้นที่เหลือน้อยและไม่เพียงพอสำหรับการจอดรถ คนส่วนใหญ่จึงหันมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้าน แต่บางทีอาจจะไม่พอจนต้องลุกล้ำมาจอดหน้าบ้านคนอื่น ก่อให้เกิดความไม่สะดวกต่อเจ้าของบ้าน ซึ่งผิดกฎหมายอาญาถือว่าเป็นการกระทำความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญใจตามมาตรา 397 นั่นเอง
7.เสียงดังจากคนทางนั้น ดังเข้าหูมาถึงคนทางนี้
ปัญหาเรื่องการส่งเสียงดังรบกวนข้างบ้านนับว่าเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเคยประสบ ไม่ว่าจะมาจากการสังสรรค์ งานเลี้ยง งานบวช งานแต่ง เราอาจจะจัดในบ้านตัวเอง แต่เสียงมันไม่ได้โดนจำกัดแค่ในบ้าน พึ่งระวังให้ดีต้องผูกมิตรกับเพื่อนบ้านไว้หากวันไหนเสียงดังเกินไป สามารถให้เพื่อนบ้านเราเตือนได้เลย จะได้ไม่ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลกันให้เสียเงินเสียเวลาทั้งคู่
แต่ในกรณีที่เราจำเป็นต้องใช้เสียงจริง ๆ ก็ควรเจรจาขออนุญาตกับเพื่อนบ้านก่อน เพื่อไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น โดยกฎหมายจะระบุเวลาเงียบสงบ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเพื่อนบ้าน ในช่วงระหว่างเวลา 22.00 น. จนถึง 07.00 น. สำหรับวันธรรมดา และกรณีวันหยุดตั้งแต่เวลา 22.00 น. จนถึง 09.00 น. ดังนั้นเราไม่ควรจะส่งเสียงในช่วงเวลานั้นเพื่อไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น
Login and Registration Form