เมนู Toggle

FAQ

_Supports-04_0

บำรุงรักษาลูกบิดประตู
- ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Stainless steel
     ทำความสะอาดทุกๆ 3-6 เดือน โดยใช้ผ้าหรือฟองน้ำและไม่ควรทำความสะอาด ด้วยวัสดุที่มีความหยาบเพราะจะทำให้เกิดรอยฅ
- ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Zinc Alloy
     ทำความสะอาดทุกๆ 2-3 สัปดาห์ ใช้ฟองน้ำหรือชุบน้ำยาล้างจาน แล้วล้างออก ด้วยน้ำประปา หลังจากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้ง
- ลูกบิดประตูที่ทำมาจาก Brass (ทองเหลือง)
     ทำความสะอาดทุกๆ 2-3 สัปดาห์ ใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ถ้ายังมีคราบอยู่ให้เช็ดด้วยน้ำยาล้างจาน



บำรุงรักษาบานพับประตู เมื่อมีเสียงดัง
- น้ำมันพืช
      บางคนบอกเลยว่าน้ำมันพืชเป็นเหมือนกับยาสามัญประจำบ้าน เพราะประตูเลื่อนไม่ค่อยได้ จนถึงบานพับมีเสียงดังก็สามารถหยดน้ำมันพืชลงไปที่บานพับได้เลยครับ หยดแล้วก็เปิดๆ ปิดๆ หลายรอบหน่อย แล้วเสียงที่ดังจะลดลงไปมากทันที (ถ้าหยดอย่างไรก็เสียงไม่หายทั้งหมด ให้ปล่อยไว้สักคืนนึงแล้วพรุ่งนี้มาลองใหม่)
- น้ำมันมะพร้าว
      ถ้าเพื่อนๆ กลัวว่าน้ำมันพืชจะมีกลิ่นเหม็นติดเสื้อผ้าแบบนี้ลองใช้น้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันมะพร้าวจะมีกลิ่นที่หอมว่า แถมบางคนก็ยังใช้น้ำมันมะพร้าวทาผิวอีกด้วย ซึ่ง JARTON ได้ทดลองใช้น้ำมันมะพร้าวแก้ปัญหาเสียงดังที่บานพับมาแล้ว
- Baby Oil
      ถ้าไม่อยากใช้น้ำมันต่างๆ กับตู้เสื้อผ้า ของใช้ในบ้านอีกอย่างที่เพื่อนๆ สามารถใช้ทดแทนได้ทันทีเลยก็คือ Baby Oil โดยทดลองหยดไปเลย เสียงหาย เปิด - ปิดตู้ได้ลื่นแน่นอน
- ครีม
      ตอนนี้ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่มีของที่กล่าวมาทั้งหมด เราก็ใช้ครีมทาตัวไปแทนก่อนได้เหมือนกัน เพียงครีมทาตัวอาจจะแก้ปัญหาได้ระยะเวลาที่สั้นว่าน้ำมันพืชหรือน้ำมันมะพร้าว
- วาสลีน
      อย่าลืมวาสลีนกันไปล่ะ เพราะวาสลีนเองก็สามารถใช้หล่อลื่นและแก้ไขเสียงดังในเวลาที่เปิด - ปิดประตูได้เช่นกัน
- ฉีด Sonax หรือ WD-40
     เอานี้แนะนำสำหรับประตูบ้านเท่านั้น ไม่อยากให้ใช้ประตูตู้เสื้อผ้าเลย เพราะน้ำยา Sonax หรือ WD-40 มันมีกลิ่นแรงมาก แต่ข้อดีเลยก็คือ เราสามารถฉีดเข้าไปทุกซอกทุกมุม น้ำยาเข้าถึงทุกส่วนของบานพับได้แน่ๆ และสามารถเห็นผลได้ทันที
- น้ำมันจักร
      น้ำมันหล่อลื่นราคาถูกสุดๆ ก็สามารถใช้ได้ ข้อดีคือ กลิ่นไม่แรงเท่า Sonax แต่เราจะหยดให้เข้าไปทุกซอกทุกมุมได้ยากกว่าการฉีด


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอลสามารถติดตั้งกับบานประตูเก่าที่เคยมีการติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ได้หรือไม่
A: ได้ แต่จะไม่สามารถกลับไปติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก เดิมได้เนื่องจากช่องเจาะจะใหญ่กว่าขนาดของติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ปกติ



Q: ประตูหน้าบ้านที่เป็นบานคู่และต้องการติดตั้งชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล ต้องทำอย่างไร
A: สามารถติดตั้งชุด Dummy (มือจับหลอก) เพื่อความสวยงาม
โดยที่ประตุด้านที่ติด Dummy ต้องล๊อคไว้ตลอดเวลา


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีโหมดการล็อคอัตโนมัติหรือไม่
A: มี สามารถตั้งค่าเวลาหน่วงในการล๊อคได้จากแอปพลิเคชั่น


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อปลดล๊อคได้กี่รูปแบบ อะไรบ้าง
A: 5 รูปแบบ การปลดล๊อค
      1. ลายนิ้วมือ
      2. บัตร
      3. รหัส
      4. แอป
      5. กุญแจ


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นอย่างไร
A: สามารถดาวน์โหลด Application Jarton Home
      1. เข้า Application Jarton Home > " + " (Add Device) มุมขวาบน > กล้องและล๊อค > ตัวล๊อคประตู Wi-Fi > เลือกสัญญาณ Wi-Fi 2.4GHz> รอเชื่อมต่อ
      2. ตั้งค่าหน้าเครื่องเพื่อเชื่อมต่อ กด * + # + Admin Code + # + 3 + 4+ 1 (เชื่อมต่อ) หรือ 2 (ยกเลิกการเชื่อมต่อ) + *


Q: แบตเตอรี่หมด ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคประตูเข้าห้องได้ ควรทำอย่างไร
A: สามารถทำได้ 2 วิธี
      1. สามารถใช้พลังงานจากแบตสำรองมากระตุ้นได้
      2. สามารถใช้กุญแจไขเพื่อเปิดได้


Q: ในกรณียืนยันตัวตนผิดหลายครั้ง ระบบจะส่งเสียงเตือนและล็อคระบบ ควรทำอย่างไร
A: รอประมาณ 5 นาทีแล้วใส่รหัสใหม่


Q: ความหนาบานและความกว้างกรอบบานที่สามารถติดตั้งได้ ควรมีขนาดเท่าไร
A: ความหนาของประตู 35 - 65 มม.
   พื้นที่เฟรมประตูควรมีอย่างน้อย ≥95 มม.


Q: สามารถติดตั้งกับบานกระจกเปลือยได้หรือไม่
A: ไม่สามารถติดตัังได้


Q: สามารถติดตั้งกับประตูแบบไหนได้บ้าง
A: ประตูไม้ ประตูเหล็ก ที่เป็นบานเปิด


Q: แบตเตอรี่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์ล็อค และระยะเวลาการใช้งาน
A: ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 6 เดือน


Q: สามารถบันทึกคีย์การ์ดได้สูงสุดกี่ใบ
A: รวมกันกับคีย์การ์ด ลายนิ้วมือ รหัสผ่าน ได้ประมาณสูงสุด 240 ชุด แค่เฉพาะนิ้วมือ สูงสุดได้ 100


Q: สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดเท่าไร
A: รวมกันกับคีย์การ์ด ลายนิ้วมือ รหัสผ่าน ได้ประมาณสูงสุด 240 ชุด แค่เฉพาะนิ้วมือ สูงสุดได้ 100


Q: สามารถสร้างรหัสได้สูงสุดเท่าไร
A: รวมกันกับคีย์การ์ด ลายนิ้วมือ รหัสผ่าน ได้ประมาณสูงสุด 240 ชุด แค่เฉพาะนิ้วมือ สูงสุดได้ 100


Q: สามารถใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่แบบชาร์จมีการจ่ายไฟที่ไม่เสถียร ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบอัลคาไลน์ขนาด AA เท่านั้น


Q: Privacy Lock คืออะไร และมีขั้นตอนการเปิดระบบอย่างไร
A: คือโหมดความเป็นส่วนตัว ที่เปิดใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการให้บุคคลที่มีรหัสผ่านหรือ Key card สามารถเปิดประตูเข้าห้องได้ เมื่อเจ้าของห้องจำเป็นต้องใช้ห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายเพียงกดเลื่อนปุ่ม Privacy Lock ให้เป็นสีแดงที่อยู่ทางด้านหลังของอุปกรณ์ โดยบุคคลที่สามารถเปิดเข้าประตูจำเป็นต้องเปิดด้วยรหัสมาสเตอร์เท่านั้น


Q: กรณีทำบัตร/คีย์การ์ดสูญหาย ควรปฎิบัติอย่างไร
A: ทำการลบ Key card ออกทั้งหมดและเพิ่ม Key card ที่ต้องการใช้ใหม่อีกครั้ง


Q: ลืมรหัสทำอย่างไร
A: 2 วิธี
      1. ทำการสร้างรหัสใหม่ โดยไม่ลบรหัสเดิม แต่จะทำให้จำนวนรหัสที่สร้างได้ใหม่น้อยลง
      2. ทำการลบ รหัส ออกทั้งหมดและสร้างรหัสใหม่


Q: การเพิ่มหรือลดระดับเสียงของการกดปุ่ม ต้องทำอย่างไร
A: ตั้งค่าหน้าเครื่อง กด * + # + Admin Code + # + 3 + 2+ 1 (เพิ่มเสียง) หรือ 2 (ลดเสียง) + *


Q: หากต้องการให้ประตูถูกเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ Key card ในการปลดล็อค ควรทำอย่างไร
A: ตั้งค่าหน้าเครื่อง กด * + # + Admin Code + # + 3 + 1+ 1 + *



Q: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้มั้ย
A: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้


Q: เชื่อมต่อ Wi-Fi ยังไง
A: อุปกรณ์จะเชื่อม Wi-Fi ตั้งแต่ตอนเชื่อม App Jarton Home


Q: แชร์อุปกรณ์ให้คนในครอบครัวได้มั้ย
A: แชร์ได้โดยการแชร์อุปกรณ์ไปให้ครับครัว
   เข้า Application Jarton Home > Card > เลือกอุปกรณ์ > ตั้งค่า(มุมขวาบน) > อุปกรณ์ที่แชร์ > เพิ่มการแชร์ > เลือก Account ที่ต้องการแชร์ 


Q: แชร์สิทธ์ให้เปิดแค่ประตูได้มั้ย
A: ไม่ได้ การแชร์ใน App Jarton Home จะเป็นการแชร์อุปกรณ์ไปทั้งหมด


Q: กันน้ำได้มั้ย
A: ได้ ด้วย IP 55


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอลสามารถติดตั้งกับบานประตูเก่าที่เคยมีการติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ได้หรือไม่
A: ได้ แต่จะไม่สามารถกลับไปติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก เดิมได้เนื่องจากช่องเจาะจะใหญ่กว่าขนาดของติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ปกติ


Q: ประตูหน้าบ้านที่เป็นบานคู่และต้องการติดตั้งชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล ต้องทำอย่างไร
A: สามารถติดตั้งชุด Dummy (มือจับหลอก) เพื่อความสวยงาม โดยที่ประตุด้านที่ติด Dummy ต้องล๊อคไว้ตลอดเวลา


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีโหมดการล็อคอัตโนมัติหรือไม่
A: มี สามารถตั้งค่าเวลาหน่วงในการล๊อคได้จากแอปพลิเคชั่น


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อปลดล๊อคได้กี่รูปแบบ อะไรบ้าง
A: 5 รูปแบบ การปลดล๊อค
      1. ลายนิ้วมือ
      2. บัตร
      3. รหัส
      4. แอป
      5. กุญแจ 


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นอย่างไร
A: สามารถดาวน์โหลด Application Jarton Lock เข้า Application Jarton Lock > Add Lock > Door Lock > แตะหน้าจออุปกรณ์ให้ตัวเลขติด > Next >เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ 

Q: แบตเตอรี่หมด ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคประตูเข้าห้องได้ ควรทำอย่างไร
A: - สามารถใช้พลังงานจากแบตสำรองมากระตุ้นได้
    - สามารถใช้กุญแจไขเพื่อเปิดได้"

Q: ในกรณียืนยันตัวตนผิดหลายครั้ง ระบบจะส่งเสียงเตือนและล็อคระบบ ควรทำอย่างไร
A: รอประมาณ 5 นาทีแล้วใส่รหัสใหม่

Q: ความหนาบานและความกว้างกรอบบานที่สามารถติดตั้งได้ ควรมีขนาดเท่าไร
A: ความหนาของประตู 35 - 65 มม.
     พื้นที่เฟรมประตูควรมีอย่างน้อย ≥95 มม.

Q: สามารถติดตั้งกับบานกระจกเปลือยได้หรือไม่
A: ไม่สามารถติดตัังได้

Q: สามารถติดตั้งกับประตูแบบไหนได้บ้าง
A: ประตูไม้ ประตูเหล็ก ที่เป็นบานเปิด

Q: แบตเตอรี่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์ล็อค และระยะเวลาการใช้งาน
A: ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 6 เดือน

Q: สามารถบันทึกคีย์การ์ดได้สูงสุดกี่ใบ
A: บัตร Mifare 200 ใบ

Q: สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดเท่าไร
A: 200 ลายนิ้วมือ

Q: สามารถสร้างรหัสได้สูงสุดเท่าไร
A: รหัส User ตั้งเองได้จำนวน 200 รหัส และ แบบสุ่มได้ไม่จำกัดจำนวน

Q: สามารถใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่แบบชาร์จมีการจ่ายไฟที่ไม่เสถียร ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบอัลคาไลน์ขนาด AA เท่านั้น

Q: Privacy Lock คืออะไร และมีขั้นตอนการเปิดระบบอย่างไร
A: คือโหมดความเป็นส่วนตัว ที่เปิดใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการให้บุคคลที่มีรหัสผ่านหรือ Key card สามารถเปิดประตูเข้าห้องได้ เมื่อเจ้าของห้องจำเป็นต้องใช้ห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายเพียงกดเลื่อนปุ่ม Privacy Lock ให้เป็นสีแดงที่อยู่ทางด้านหลังของอุปกรณ์ โดยบุคคลที่สามารถเปิดเข้าประตูจำเป็นต้องเปิดด้วยรหัสมาสเตอร์เท่านั้น
 

Q: กรณีทำบัตร/คีย์การ์ดสูญหาย ควรปฎิบัติอย่างไร
A: ทำการลบ Key card ที่หายออก เข้า Application Jarton Lock > Card > เลือก Card ที่สูญหาย > Delete 

Q: ลืมรหัสทำอย่างไร
A: "เข้าไปตรวจสอบได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Passcodes > เลือก User ที่ต้องการ"

Q: การเพิ่มหรือลดระดับเสียงของการกดปุ่ม ต้องทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Lock Sound > เลือกระดับที่ต้องการ 

Q: หากต้องการให้ประตูถูกเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ Key card ในการปลดล็อค ควรทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Passage Mode > เลือกช่วงเวลาในการเปิด - ปิด 

Q: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้มั้ย
A: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้

Q: เชื่อมต่อ Wi-Fi ยังไง
A: เข้า Application Jarton Lock > Setting > Wifi > ใส่ ชื่อ/รหัส Wifi > Ok

Q: แชร์อุปกรณ์ให้คนในครอบครัวได้มั้ย
A: แชร์ได้โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการแชร์ในมีสิทธ์ปลดแบบใดก็ได้

Q: แชร์สิทธ์ให้เปิดแค่ประตูได้มั้ย
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > eKeys > เลือกช่วงเวลาในการแชร์ > Send 

Q: กันน้ำได้มั้ย
A: ได้ ด้วย IP 55


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอลสามารถติดตั้งกับบานประตูเก่าที่เคยมีการติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ได้หรือไม่
A: ได้ โดยไม่ต้องเจาะขยายช่องเพิ่ม สามารถกลับไปใส่ลูกบิดแบบปกติได้

Q: ประตูหน้าบ้านที่เป็นบานคู่และต้องการติดตั้งชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล ต้องทำอย่างไร
A: สามารถติดตั้งชุด Dummy (มือจับหลอก) เพื่อความสวยงาม
    โดยที่ประตุด้านที่ติด Dummy ต้องล๊อคไว้ตลอดเวลา

Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีโหมดการล็อคอัตโนมัติหรือไม่
A: มี สามารถตั้งค่าเวลาหน่วงในการล๊อคได้จากแอปพลิเคชั่น


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อปลดล๊อคได้กี่รูปแบบ อะไรบ้าง
A: 5 รูปแบบ การปลดล๊อค
      1. ลายนิ้วมือ
      2. บัตร
      3. รหัส
      4. แอป
      5. กุญแจ


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นอย่างไร
A: สามารถดาวน์โหลด Application Jarton Lock
เข้า Application Jarton Lock > Add Lock > Door Lock > แตะหน้าจออุปกรณ์ให้ตัวเลขติด > Next >
เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ


Q: แบตเตอรี่หมด ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคประตูเข้าห้องได้ ควรทำอย่างไร
A: - สามารถใช้พลังงานจากแบตสำรองมากระตุ้นได้
    - สามารถใช้กุญแจไขเพื่อเปิดได้


Q: ในกรณียืนยันตัวตนผิดหลายครั้ง ระบบจะส่งเสียงเตือนและล็อคระบบ ควรทำอย่างไร
A: รอประมาณ 2 นาทีแล้วใส่รหัสใหม่


Q: ความหนาบานและความกว้างกรอบบานที่สามารถติดตั้งได้ ควรมีขนาดเท่าไร
A: ความหนาของประตู 35 - 65 มม.
    ระยะเจาะ 60 มม.


Q: สามารถติดตั้งกับบานกระจกเปลือยได้หรือไม่
A: ไม่สามารถติดตัังได้


Q: สามารถติดตั้งกับประตูแบบไหนได้บ้าง
A: ประตูไม้ ประตูเหล็ก ประตู PVC ที่เป็นบานเปิด


Q: แบตเตอรี่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์ล็อค และระยะเวลาการใช้งาน
A: ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 8 เดือน


Q: สามารถบันทึกคีย์การ์ดได้สูงสุดกี่ใบ
A: บัตร Mifare 200 ใบ


Q: สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดเท่าไร
A: 200 ลายนิ้วมือ


Q: สามารถสร้างรหัสได้สูงสุดเท่าไร
A: รหัส User ตั้งเองได้จำนวน 200 รหัส และ แบบสุ่มได้ไม่จำกัดจำนวน


Q: สามารถใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่แบบชาร์จมีการจ่ายไฟที่ไม่เสถียร ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบอัลคาไลน์ขนาด AA เท่านั้น


Q: Privacy Lock คืออะไร และมีขั้นตอนการเปิดระบบอย่างไร
A: คือโหมดความเป็นส่วนตัว ที่เปิดใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการให้บุคคลที่มีรหัสผ่านหรือ Key card สามารถเปิดประตูเข้าห้องได้ เมื่อเจ้าของห้องจำเป็นต้องใช้ห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายเพียงกดเลื่อนปุ่ม Privacy Lock ให้เป็นสีแดงที่อยู่ทางด้านหลังของอุปกรณ์ โดยบุคคลที่สามารถเปิดเข้าประตูจำเป็นต้องเปิดด้วยรหัสมาสเตอร์เท่านั้น


Q: กรณีทำบัตร/คีย์การ์ดสูญหาย ควรปฎิบัติอย่างไร
A: ทำการลบ Key card ที่หายออก เข้า Application Jarton Lock > Card > เลือก Card ที่สูญหาย > Delete


Q: ลืมรหัสทำอย่างไร
A: เข้าไปตรวจสอบได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Passcodes > เลือก User ที่ต้องการ


Q: การเพิ่มหรือลดระดับเสียงของการกดปุ่ม ต้องทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Lock Sound > เลือกระดับที่ต้องการ


Q: หากต้องการให้ประตูถูกเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ Key card ในการปลดล็อค ควรทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Passage Mode > เลือกช่วงเวลาในการเปิด - ปิด


Q: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้มั้ย
A: สามารถเชื่อมต่อได้โดยเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Gateway (131073)


Q: แชร์อุปกรณ์ให้คนในครอบครัวได้มั้ย
A: แชร์ได้โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการแชร์ในมีสิทธ์ปลดแบบใดก็ได้


Q: แชร์สิทธ์ให้เปิดแค่ประตูได้มั้ย
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > eKeys > เลือกช่วงเวลาในการแชร์ > Send


Q: กันน้ำได้มั้ย
A: ได้ ด้วย IP 55


Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอลสามารถติดตั้งกับบานประตูเก่าที่เคยมีการติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ได้หรือไม่
A: ได้ แต่จะไม่สามารถกลับไปติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก เดิมได้เนื่องจากช่องเจาะจะใหญ่กว่าขนาดของติดตั้งลูกบิดหรือมือจับก้านโยก ปกติ

Q: ประตูหน้าบ้านที่เป็นบานคู่และต้องการติดตั้งชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล ต้องทำอย่างไร
A: สามารถติดตั้งชุด Dummy (มือจับหลอก) เพื่อความสวยงาม
โดยที่ประตุด้านที่ติด Dummy ต้องล๊อคไว้ตลอดเวลา

Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีโหมดการล็อคอัตโนมัติหรือไม่
A: มี สามารถตั้งค่าเวลาหน่วงในการล๊อคได้จากแอปพลิเคชั่น

Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการยืนยันตัวตนเพื่อปลดล๊อคได้กี่รูปแบบ อะไรบ้าง
A: 5 รูปแบบ การปลดล๊อค
1. ลายนิ้วมือ
2. บัตร
3. รหัส
4. แอป
5. กุญแจ

Q: ชุดล็อคประตูระบบดิจิตอล มีวิธีการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นอย่างไร
A: สามารถดาวน์โหลด Application Jarton Lock เข้า Application Jarton Lock > Add Lock > Door Lock > แตะหน้าจออุปกรณ์ให้ตัวเลขติด > Next > เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ

Q: แบตเตอรี่หมด ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคประตูเข้าห้องได้ ควรทำอย่างไร
A: - สามารถใช้พลังงานจากแบตสำรองมากระตุ้นได้
- สามารถใช้กุญแจไขเพื่อเปิดได้"

Q: ในกรณียืนยันตัวตนผิดหลายครั้ง ระบบจะส่งเสียงเตือนและล็อคระบบ ควรทำอย่างไร
A: รอประมาณ 2 นาทีแล้วใส่รหัสใหม่

Q: ความหนาบานและความกว้างกรอบบานที่สามารถติดตั้งได้ ควรมีขนาดเท่าไร
A: ความหนาของประตู 35 - 65 มม.
ระยะพื้นที่เฟรม > 53 มม.

Q: สามารถติดตั้งกับบานกระจกเปลือยได้หรือไม่
A: ไม่สามารถติดตัังได้

Q: สามารถติดตั้งกับประตูแบบไหนได้บ้าง
A: ประตูไม้ ประตูเหล็ก ประตูอลูมิเนียม ประตู PVC เหมาะับประตูบานเปิด บานเลื่อน

Q: แบตเตอรี่ที่เหมาะสมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์ล็อค และระยะเวลาการใช้งาน
A: ถ่านอัลคาไลน์ขนาด AAA จำนวน 4 ก้อน จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 8-12 เดือน

Q: สามารถบันทึกคีย์การ์ดได้สูงสุดกี่ใบ
A: บัตร Mifare 200 ใบ

Q: สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดเท่าไร
A: 200 ลายนิ้วมือ

Q: สามารถสร้างรหัสได้สูงสุดเท่าไร
A: รหัส User ตั้งเองได้จำนวน 200 รหัส และ แบบสุ่มได้ไม่จำกัดจำนวน

Q: สามารถใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้หรือไม่
A: ไม่ได้ เนื่องจากแบตเตอรี่แบบชาร์จมีการจ่ายไฟที่ไม่เสถียร ทำให้การทำงานของอุปกรณ์ไม่สมบูรณ์ แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบอัลคาไลน์ขนาด AAA เท่านั้น

Q: Privacy Lock คืออะไร และมีขั้นตอนการเปิดระบบอย่างไร
A: คือโหมดความเป็นส่วนตัว ที่เปิดใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการให้บุคคลที่มีรหัสผ่านหรือ Key card สามารถเปิดประตูเข้าห้องได้ เมื่อเจ้าของห้องจำเป็นต้องใช้ห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว สามารถเปิดใช้งานได้ง่ายเพียงกดเลื่อนปุ่ม Privacy Lock ให้เป็นสีแดงที่อยู่ทางด้านหลังของอุปกรณ์ โดยบุคคลที่สามารถเปิดเข้าประตูจำเป็นต้องเปิดด้วยรหัสมาสเตอร์เท่านั้น

Q: กรณีทำบัตร/คีย์การ์ดสูญหาย ควรปฎิบัติอย่างไร
A: ทำการลบ Key card ที่หายออก เข้า Application Jarton Lock > Card > เลือก Card ที่สูญหาย > Delete

Q: ลืมรหัสทำอย่างไร
A: เข้าไปตรวจสอบได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Passcodes > เลือก User ที่ต้องการ

Q: การเพิ่มหรือลดระดับเสียงของการกดปุ่ม ต้องทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Lock Sound > เลือกระดับที่ต้องการ

Q: หากต้องการให้ประตูถูกเปิดเข้าออกได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือ Key card ในการปลดล็อค ควรทำอย่างไร
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > Setting > Passage Mode > เลือกช่วงเวลาในการเปิด - ปิด

Q: สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้มั้ย
A: สามารถเชื่อมต่อได้โดยเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Gateway (131073)

Q: แชร์อุปกรณ์ให้คนในครอบครัวได้มั้ย
A: แชร์ได้โดยสามารถเลือกได้ว่าต้องการแชร์ในมีสิทธ์ปลดแบบใดก็ได้

Q: แชร์สิทธ์ให้เปิดแค่ประตูได้มั้ย
A: เข้าไปตั้งค่าได้ในแอปพลิเคชั่น เข้า Application Jarton Lock > eKeys > เลือกช่วงเวลาในการแชร์ > Send

Q: กันน้ำได้มั้ย
A: ได้ ด้วย IP 65

Q: ดูออนไลน์ผ่านมือถือไม่ได้ Status ที่มือถือขึ้น Offline
A: - ตรวจสอบสถานะไฟของกล้องว่าติดอยู่หรือไม่
    - ตรวจสอบการเชื่อมต่อ Internet
    - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ห่างจากเราเตอร์มากเกินไป
    - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ไม่มากเกินไป


Q: ดูย้อนหลังไม่มีข้อมูล เครื่องไม่บันทึกข้อมูล
A: ตรวจสอบ SD Card
    - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ด SD เป็นคลาส 10 หรือมีระดับ UHS-1
    - ปิดกล้องของคุณ ถอดและใส่การ์ด SD กลับเข้าไปใหม่ เปิดกล้อง จากนั้นเริ่มต้นการ์ดอีกครั้งในแอป
    - ลองทดสอบด้วยการ์ด SD อื่นหรือติดตั้งการ์ดดังกล่าวบนอุปกรณ์ อื่น เพื่อตรวจสอบ การ์ด


Q: สามารถบันทึกคลิปวิดีโอลงระบบ Cloud ได้สูงสุดกี่คลิป
A: จำนวนคลิปที่บันทึกได้ต่อเดือนขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่ท่านเลือก โดยแพ็กเกจเริ่มต้นจะสามารถบันทึกคลิปวิดีโอลงระบบ Cloud ได้สูงสุด 50,000 คลิป/เดือน


Q: ดูกับมือถือพร้อมกันได้สูงสุดกี่เครื่อง?
A: เปิดกล้องพร้อมกันจากมือถือได้ไม่จำกัด


Q: มือถือ 1 เครื่องเชื่อมต่อกับกล้องได้กี่ตัว?
A: มือถือ 1 เครื่องเชื่อมต่อกับกล้องได้ไม่จำกัด


Q: ใช้ ‎Application อะไร
A: ใช้‎ Application " JartonHome "


Q: กล้องใช้งานยังไง
A: สามารถดาวน์โหลด Application แล้วสารถเชื่อต่อWiFi ของกล้องได้เลย


Q: ระยะเท่าไหร่ถึงจะถึงจะไม่หลุดการเชื่อต่อ
A: ระยะการเชื่อมต่อ WIFI คลื่น 2.4GHz จะปล่อยสัญญาณ ได้ 100 เมตร ในที่โล่ง
หากมีกำแพงกั้นสัญญาณจะดร๊อปลง ระยะที่ดีคือไม่เกิน 10-15 เมตร


Q: หากรหัสผ่าน Wi-Fi เปลี่ยน ต้องทำอย่างไร?
A: 1. ลบกล้องออกจากแอปพลิเคชั่น
2. รีเซ็ตตัวกล้อง
3. ตั้งค่าอุปกรณ์และเริ่มกระบวนการตั้งค่าใหม่อีกครั้ง 


Q: เหตุใดอุปกรณ์ของฉันจึงออฟไลน์บ่อยครั้ง
A: - หากกล้องเชื่อมต่อด้วย W-Fi โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ห่างจากเราเตอร์มากเกินไปเพื่อให้อุปกรณ์นั้นสามารถรับสัญญาณเครือข่ายที่แรงกว่าได้
    - หากกล้องเชื่อมต่อด้วย สาย LAN โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไม่มีปัญหา
    - ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟของกล้องว่าหลวม หรือมีปัญหาหรือไม่


Q: จะแก้ไขชื่ออุปกรณ์ในแอพมือถือได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้องที่ใส่การ์ด > ไปที่หน้าการตั้งค่า > แตะแท็บรูปภาพอุปกรณ์เพื่อแก้ไขชื่ออุปกรณ์ > ชื่ออุปกรณ์


Q: จะแชร์อุปกรณ์กับครอบครัวหรือเพื่อนของฉันได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > ไปที่หน้าการตั้งค่า > อุปกรณ์ที่แชร์ > เพิ่มการแชร์ > ใส่ Account ที่จะแชร์


Q: ใส่การ์ด Micro SD แล้ว แต่แอปยังคงแสดงข้อความ “ไม่มีการ์ดหน่วยความจำ”
A: 1: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งเฟิร์มแวร์ของกล้องและแอป ทำงานบนเวอร์ชันล่าสุด
    2: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ด SD เป็นคลาส 10 หรือมีระดับ UHS-1 รูปแบบไฟล์ของการ์ด SD ควรเป็น FAT32 สำหรับความจุต่ำกว่า 64GB และ exFAT สำหรับความจุ 64GB ขึ้นไป
    3: ปิดกล้องของคุณ ถอดและใส่การ์ด SD กลับเข้าไปใหม่ เปิดกล้อง จากนั้นเริ่มต้นการ์ดอีกครั้งในแอป
    4: ลองทดสอบด้วยการ์ด SD อื่นหรือติดตั้งการ์ดดังกล่าวบนอุปกรณ์ อื่น เพื่อตรวจสอบ การ์ด


Q: ทำการรีเซ็ตการ์ดหน่วยความจำที่ใส่เข้าไปในกล้องได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้องที่ใส่การ์ด > ไปที่หน้าการตั้งค่า > ไปที่การตั้งงค่าการ์ดหน่วยความจำ > ฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำ

Q: ติดตั้งกล้องกลับหัว จะพลิกจอยังไง
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้องที่ใส่การ์ด > ไปที่หน้าการตั้งค่า > ไปที่การตั้งงค่าฟังก์ชั่นพื้นฐาน > พลิกจอ

Q: จะเปิด/ปิดการแจ้งเตือนการตรวจจับการเคลื่อนไหวโดย APP ได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > ไปที่หน้าการตั้งค่า > ไปที่สวิตช์เปิด/ปิด PIR > เลือกโหมด


Q: ควรทำอย่างไรเมื่อการเชื่อมต่อ Wi-Fi ล้มเหลวระหว่างการจับคู่อุปกรณ์?
A: 1) ตรวจสอบย่านความถี่ของเราเตอร์ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงรักษาและอนุญาตให้ส่งสัญญาณโหมด 2.4 GHz
    2) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์มือถืออยู่ในเครือข่าย Wi-Fi และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่าย Wi-Fi ออนไลน์และใช้งานได้
    3) ตรวจสอบสภาพเครือข่าย:
       • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่ายของคุณไม่มีไฟร์วอลล์และไม่มีขีดจำกัดอื่น ๆ
       • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่มีอุปกรณ์มากเกินไปในเครือข่าย
    4) รีเซ็ตกล้องของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์อยู่ในโหมดตั้งค่า/พร้อมใช้งาน จากนั้นใช้แอปมือถือสำหรับการกำหนดค่า Wi-Fi ของอุปกรณ์"


Q: จะแก้ไขตำแหน่งอุปกรณ์ในแอพมือถือได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > ไปที่หน้าการตั้งค่า > แตะแท็บรูปภาพอุปกรณ์เพื่อแก้ไขชื่ออุปกรณ์ > ตำแหน่งอุปกรณ์


Q: จะเคลื่อนย้ายกล้องได้อย่างไร
A: 1. คุณสามารถเคลื่อนย้ายกล้องของคุณได้ทุกเมื่อ ถอดปลั๊กอุปกรณ์แล้วเคลื่อนย้าย เมื่อเสียบปลั๊กแล้ว ควรเปิดเครื่องและเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เดียวกันโดยอัตโนมัติ
    2. หากไม่ใช่ Wi-Fi เดิมคุณจะต้องตั้งค่าอุปกรณ์และเริ่มกระบวนการตั้งค่าอีกครั้ง


Q: เหตุใดการ์ด micro SD ของฉันจึงไม่สามารถทำงานร่วมกับกล้องได้ตามปกติ
A: 1) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟิร์มแวร์ของกล้องเป็นเวอร์ชันล่าสุด และกล้องรองรับขนาดของการ์ด SD ที่ต้องการ
    2) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ด SD ที่คุณใช้นั้นเป็นคลาส 10 หรืออยู่ที่ UHS-1 และรูปแบบไฟล์ควรเป็น FAT32 


Q: ควรวางแผงโซลาร์เซลล์ ยังไง
A: เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คุณอาจปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อวางแผงโซลาร์เซลล์ของคุณ:
1 โปรดอย่าวางแผงโซลาร์เซลล์ไว้ใต้ร่มเงา และให้แน่ใจว่าได้รับแสงแดดมากที่สุด
2 โปรดอย่าวางแผงโซลาร์เซลล์ขนานกับพื้นจนสุดเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอื่นๆ
3 ควรเอียงแผงโซลาร์เซลล์เพื่อรับรังสีแสงอาทิตย์สูงสุด และมุมเอียงที่แนะนำคือ 25°- 40°


Q: เหตุใดกล้องจึงหมุนตามเวลาเดินผ่าน
A: หากคุณเปิดใช้งานการติดตามอัจฉริยะ กล้องจะเริ่มติดตามเมื่อถูกกระตุ้นโดยวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ จากนั้น เมื่อการติดตามสิ้นสุดลงและไม่ได้ทำงานเป็นเวลา 30 วินาที กล้องจะหมุนไปที่ระดับสูงสุดแล้วกลับสู่ตำแหน่งเดิมที่กล้องทำงาน


Q: ภาพจากกล้องเบลอ
A: ทำความสะอาดด้านนอกของเลนส์


Q: ภาพจากกล้องสว่างเกินไปใน Night Vision / Infrared / Smart Mode
A: 1. ปรับระยะห่างจากวัตถุ
2. ปรับมุมของกล้อง


Q: เราเตอร์สามารถรองรับกล้อง WiFi ได้กี่ตัว?
A: ขึ้นอยู่กับเร้าเตอร์แต่ละรุ่น


Q: ติดกล้องมากกกว่า 2 ตัว กล้องพลัดกัน ออนไลน์-ออฟไลน์
A: เช็คเร้าเตอร์ว่าสามารถรองรับอุปกรณ์ไวไฟ ได้กี่ช่องสัญญาณ เพราะการที่กล้องสลับออนไลน์น่าจะมาจากการแย่งช่องสัญญาณกัน


Q: จะเปิด/ปิด โหมดการตรวจจับการเคลื่อนไหวได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > Features > Motion Detection หรือ PIR


Q: จะเปิด/ปิด โหมดการติดตามการเคลื่อนไหวได้อย่างไร?
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > Features > Motion Tracking


Q: กล้องไม่เห็นตอนกลางคืน
A: ตรวจสอบว่าเปิดในงานฟังก์ชั่น Night Mode หรือยัง โดยการเข้าแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > Features > Night Mode


Q: ดูย้อนหลังยังไง
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > Features > Playback


Q: กล้องรุ่นนี้กันน้ำไหม
A: ไม่กันน้ำกันฝน ไม่แนะนำให้ติดภายนอกอาคารที่ไม่มีกันสาด


Q: ใส่เมมได้สูงสุดเท่าไหร่
A: มากสุด 128 Gb


Q: บันทึกได้นานกี่วัน
A: ขึ้นอยู่กับความจุของ SD Card
    8Gb - 30ชั่วโมง 
    16Gb - 60ชั่วโมง 
    32Gb - 120ชั่วโมง 
    64Gb - 240ชั่วโมง 
    128Gb - 480ชั่วโมง


Q: ใส่่ SD Card ตรงไหน ยังไง
A: 1. เลื่อนกล้องให้เงยหน้าสุด
     2. ใส่ SD Card ที่ช่องใส่ใต้เลนส์กล้อง


Q: กล้องวงจรปิดใช้ไฟเยอะไหม?
A: กล้อง 1 ตัว กินไฟ 10วัตต์
    ใช้งาน 1 เดือน กินไฟ 7.2 ยูนิต คิดที่ค่าไฟหน่วยละ 3.4 บาท จะเสียค่าไฟอยู่ที่ 24.48 บาท/เดือน
    [ กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต) ]


Q: เข้าโหมดส่วนตัวยังไง
A: เข้าสู่ระบบแอปมือถือ Jarton Home > เลือกกล้อง > Features > Private Mode


Q: กล้องรุ่นนี้กันน้ำไหม
A: กันน้ำ ระดับ IP65

Q: ใส่เมมได้สูงสุดเท่าไหร่
A: มากสุด 128 Gb

Q: บันทึกได้นานกี่วัน
A: ขึ้นอยู่กับความจุของ SD Card

Q: กล้องรุ่นนี้กันน้ำไหม
A: ไม่กันน้ำ

Q: ใส่เมมได้สูงสุดเท่าไหร่
A: มากสุด 128 Gb

Q: บันทึกได้นานกี่วัน
A: ขึ้นอยู่กับความจุของ SD Card

Q: ใส่่ SD Card ตรงไหน ยังไง
A: 1. เลื่อนกล้องให้เงยหน้าสุด
    2. ใส่ SD Card ที่ช่องใส่ใต้เลนส์กล้อง

Q: ลูกบิดประตูธรรมดาทั่วไป
A: ใช้การล็อกจากด้านใน ส่วนด้านนอกสามารถปลดล็อคได้ด้วยกุญแจจากด้านนอก นิยมใช้กับประตูบ้านหรือห้องนอน เพราะลูกบิดประเภทนี้จะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก


Q: ลูกบิดแบบทางผ่าน
A: ลูกบิดประตูที่ไม่สามารถล็อกได้ เพราะมีมือจับอย่างเดียวและใช้กลอนประตูล็อกแทน เหมาะสำหรับประตูทางผ่านที่ไม่ต้องการความปลอดภัยมากหรือประตูห้องน้ำสาธารณะ


Q: ลูกบิดประตูห้องน้ำ-ห้องนอนเด็ก
A: ลูกบิดที่ใช้การล็อคจากด้านใน ส่วนด้านนอกสามารถปลดล็อคได้ด้วยกุญแจหรือเหรียญ ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะได้ช่วยเหลือได้รวดเร็วและทันเวลา


Q: สินค้าทำจากอะไร แข็งแรงมั้ย
A: สินค้าทำจากสเตนเลส 201 เบาจับถนัดมือ แข็งแรงด้วยแรงไม่แพงมาก


Q: หากประตูล็อคจากด้านใน
A: จำเป็นต้องใช้กุญแจฉุกเฉิน ทางบริษัท ให้กุญแจฉุกเฉิน 3 ดอก สามารถทำ copy ได้


Q: ลูกบิดประตูธรรมดาทั่วไป
A: ใช้การล็อกจากด้านใน ส่วนด้านนอกสามารถปลดล็อคได้ด้วยกุญแจจากด้านนอก นิยมใช้กับประตูบ้านหรือห้องนอน เพราะลูกบิดประเภทนี้จะเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก


Q: ลูกบิดแบบทางผ่าน
A: ลูกบิดประตูที่ไม่สามารถล็อกได้ เพราะมีมือจับอย่างเดียวและใช้กลอนประตูล็อกแทน เหมาะสำหรับประตูทางผ่านที่ไม่ต้องการความปลอดภัยมากหรือประตูห้องน้ำสาธารณะ


Q: ลูกบิดประตูห้องน้ำ-ห้องนอนเด็ก
A: ลูกบิดที่ใช้การล็อคจากด้านใน ส่วนด้านนอกสามารถปลดล็อคได้ด้วยกุญแจหรือเหรียญ ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะได้ช่วยเหลือได้รวดเร็วและทันเวลา


Q: สินค้าทำจากอะไร แข็งแรงมั้ย
A: สินค้าทำจากสเตนเลส 201 เบาจับถนัดมือ แข็งแรงด้วยแรงไม่แพงมาก


Q: หากประตูล็อคจากด้านใน
A: สามารถใช้เหรียญไขเปิดประตูได้


Q: จะสร้างบัญชี ได้อย่างไร
A: 1. ดาวน์โหลดแอป JartonHome จาก Google Play Store หรือ Apple App Store
     2. เมื่อดาวน์โหลดแล้ว ให้เปิดแอปแล้วแตะ ""ลงทะเบียน"" บนหน้าจอแอปเพื่อสร้างบัญชี


Q: ไม่สามารถรับรหัสยืนยันได้?
A: หากลงทะเบียนบัญชีผ่านอีเมล โปรดตรวจสอบอีเมลขยะของคุณ หากคุณยังคงไม่ได้รับรหัสยืนยัน คุณอาจมีตัวกรอง/บล็อกอีเมลที่จำกัดอีเมลนี้ โปรดตรวจสอบกับผู้ให้บริการอีเมลของคุณ


Q: วิธีจัดการกับข้อความระบบ “อุปกรณ์ออฟไลน์”?
A: 1) ตรวจสอบไฟแสดงสถานะบนอุปกรณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เปิดอยู่
     2) ตรวจสอบเราเตอร์ของคุณ ว่าใช้งานได้และออนไลน์กับอินเทอร์เน็ตได้
     3) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่มีอุปกรณ์หลายเครื่องในเครือข่ายของคุณ
     4) หากเทคนิคการแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ระบุไว้ข้างต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โปรดลบอุปกรณ์ออกจากบัญชี รีเซ็ตอุปกรณ์ และเพิ่มอุปกรณ์ลงในบัญชีของคุณอีกครั้ง


Q: วิธีแก้ปัญหาการกำหนดค่า Wi-Fi ล้มเหลว
A: 1) ตรวจสอบย่านความถี่บนเราเตอร์ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถส่งสัญญาณโหมดเครือข่าย 2.4 GHz ได้
     2) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์มือถือของคุณเชื่อมต่อ WiFi และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่าย WiFi ทำงานและใช้งานได้
     3) ตรวจสอบสภาพเครือข่าย:
       • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่ายของคุณไม่มีไฟร์วอลล์และไม่มีขีดจำกัดอื่น ๆ
       • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเตอร์สามารถกระจายที่อยู่ IP ไปยังอุปกรณ์ของคุณหรือปิดใช้งานการตั้งค่า IP แบบคงที่ (DHCP เปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นบนอุปกรณ์ EZVIZ ทั้งหมด)
     4) รีเซ็ตกล้องของคุณ; ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณอยู่ในโหมดพร้อมใช้งานหรือโหมดการกำหนดค่า Wi-Fi > จากนั้นใช้แอปมือถือ EZVIZ สำหรับการกำหนดค่า Wi-Fi ของอุปกรณ์


Q: จะเพิ่มอุปกรณ์ได้อย่างไร?
A: 1. ดาวน์โหลดแอป JartonHome ลงในโทรศัพท์มือถือของคุณจาก App Store (สำหรับ iOS), Google Play (สำหรับ Android)
     2. ลงทะเบียนบัญชี JartonHome ด้วยอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ แล้วเข้าสู่ระบบ
     3. รีเซ็ตกล้องของคุณโดยกดปุ่มรีเซ็ตประมาณ 10-15 วินาที สำหรับกล้องบางรุ่น คุณจะได้ยินเสียงสัญญาณ
     4. เชื่อมต่อโทรศัพท์ของคุณกับ wifi 2.4G เท่านั้น จากนั้นแตะปุ่ม ""+"" บนหน้าแรกเพื่อให้ของอุปกรณ์ สแกนโค้ด QR (โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์ของคุณเชื่อมต่อกับ wifi 2.4G เท่านั้น )
     5. จากนั้นทำตามคำแนะนำบนแอปเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ wifi ของคุณ
     6. หลังจากเพิ่มอุปกรณ์ลงในบัญชีของคุณแล้ว คุณจะสามารถดูกล้องของคุณได้